5 โหราศาสตร์ ทำนายดวงชะตา ยอดนิยม ในไทย ปี 2565

เมื่อพูดถึงเรื่องของการดูดวงชะตาแล้ว การใช้ศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการใช้ดวงดาวมาใช้ในการดูดวงนั้น ก็คงจะไม่พ้นเรื่องของโหราศาสตร์ (Astrology) ไปได้เลย เพราะเป็นศาสตร์ที่ไม่ใช่เพียงประเทศไทยประเทศเดียวที่นำมาใช้ในการทำนายดวงชะตาแต่ในต่างประเทศเองก็มีการใช้ศาสตร์นี้เฉกเช่นเดียวกัน และวันนี้บทความของเราก็มีความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับเรื่องของศาสตร์โหราศาสตร์แบบละเอียดมาแบ่งปันให้ทุกท่านได้รู้กัน

โหราศาสตร์ คืออะไร

โหราศาสตร์ คือ วิชาพยากรณ์ที่จะใช้เรื่องของศาสตร์ดวงดาวมาใช้ในการทำนายดวงชะตาต่าง ๆ ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาที่นอกจากจะต้องอาศัยเรื่องของการโคจรของดวงดาวรอบจักรราศีแล้วก็จำเป็นที่จะต้องใช้ศาสตร์อันล้ำลึก รวมถึงการใช้เรื่องของหลักฐานและเหตุผลมาใช้ในการทำนายดวงชะตาอีกด้วย จึงนับได้ว่าเรื่องของโหราศาสตร์นี้ก็เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่อาจนับรวมเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ได้ด้วยนั่นเอง หากท่านใดสนใจดูดวงจากหมอดูแม่นๆ สามารถเข้าชมเพิ่มเติมได้ทาง : รวม 9 “หมอดูแม่นๆ” จากหลากหลายศาสตร์ ในไทย ประจำปี 2565

โหราศาสตร์ไทย

Credit : wikimedia.org

โหราศาสตร์ไทย คือ วิชาที่ว่าด้วยเรื่องของการทำนายชคชะตาโดยใช้ดวงดาวเป็นตัวกลางในการทำนาย ซึ่งก็จะสามารถทำนายครอบคลุมได้ทั้งบุคคลและสังคมหรือประเทศชาติตามหลักการโคจรของดวงดาว โดยการทำนายดวงชะตาด้วยโหราศาสตร์ไทยนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบ ดังนี้

1. โหราศาสตร์ไทย 10 ลัคนา

โหราศาสตร์ไทย 10 ลัคนา เป็นการทำนายดวงชะตาประเภทหนึ่งที่ใช้ปฏิทินสุริยยาตร์ซึ่งเป็นปฏิทินโหราศาสตร์ไทย โดยโหรในสมัยก่อนจะอาศัยการคำนวณจาก คำนวณจากคัมภีร์สุริยยาตร์ และคัมภีร์มานัตต์ โดยใช้การคำนวณจากดาวทั้ง 10 ดวง ได้แก่ อาทิตย์(๑), จันทร์(๒), อังคาร(๓), พุธ(๔), พฤหัสบดี(๕), ศุกร์(๖), เสาร์(๗), ราหู (๘), เกตุ(๙) และ มฤตยู(๐) ซึ่งจะเป็นตำแหน่งลัคนาของดาวแต่ละดวง

2. โหราศาสตร์ไทยโบราณ

โหราศาสตร์ไทยโบราณ คือ การดูดวงหรือการทำนายโชคชะตาโดยการใช้ตำราพรหมชาติ ซึ่งเป็นตำราที่มีความเก่าแก่ของไทย ที่ภายในตำรานั้นจะมีเรื่องของศาสตร์ต่าง ๆ เอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การเลือกคู่ครอง , การสะเดาะเคราะห์ , การขึ้นบ้านใหม่ , การทำนายฝัน ,รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการทำนายดวงชะตาและเรื่องของไสยศาสตร์เอาไว้ ซึ่งก็จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของความเชื่อเสียส่วนใหญ่แต่ก็มาจากการหาหลักฐานและหลักของเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องวิถีชีวิตของคนไทย โดยตำราพรหมชาติจะใช้วิธีการตรวจสอบจากดวงชะตาประจำปีเกิดนั้น ๆ แล้วนับจากอายุโดยผู้หญิงจะนับจากเจดีย์วนไปทางซ้ายส่วนผู้ชายจะนับจากเจดีย์วนไปทางขวา อ่านวิธีการนับได้ทาง : 12 ชะตา ตามตำราพรหมชาติของไทยโบราณ (ช นับขวา ญ นับซ้าย)

3. โหราศาสตร์ไทยตัวเลข

โหราศาสตร์ไทยตัวเลข คือ ศาสตร์การทำนายที่ใช้ตัวเลข 0-9 ในการเปรียบเทียบกับดวงดาวทั้ง 10 ได้แก่ ดวงอาทิตย์ , ดวงจันทร์ , ดาวอังคาร , ดาวพุธ , ดาวพฤหัส , ดาวศุกร์ , และดาวเสาร์ ซึ่งก็จะหมายรวมไปถึงดาวที่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของการทำนายตามหลักโหราศาสตร์อย่าง ดาวมฤตยู , ดาวราหู , และดาวเกตุอีกด้วย อ่านความหมายของตัวเลขแบบละเอียดได้ทาง : ความหมายของเลข 0-9 มีพลังงานบางอย่าง! บอกอะไรได้บ้าง ?

  • 1 – พระอาทิตย์ (พลังความเชื่อมั่น)
  • 2 – ดวงจันทร์ (ราชินีอ่อนหวาน)
  • 3 – ดาวอังคาร (พลังนักรบ)
  • 4 – ดาวพุธ (เทพแห่งปัญญา)
  • 5 – ดาวพฤหัส (ความดีงามและมีสติปัญญา)
  • 6 – ดาวศุกร์ (เทพแห่งศิลปะและความบันเทิง)
  • 7 – ดาวเสาร์ (พลังแห่งความอดทน)
  • 8 – ดาวราหู (พลังแห่งความลุ่มหลง)
  • 9 – ดาวพระเกตุ (พลังแห่งความศักดิ์สิทธิ์)
  • 0 – ดาวมฤตยู (เทพเจ้าแห่งความสูญสิ้น)

โหราศาสตร์จีน

โหราศาสตร์
5 โหราศาสตร์ ทำนายดวงชะตา ยอดนิยม ในไทย ปี 2565

โหราศาสตร์จีนนั้นเป็นศาสตร์ที่มีความละเอียดอ่อน โดยโหราศาสตร์จีนจะใช้องค์ประกอบทั้ง 3 สิ่ง ในการทำนาดวงชะตา ได้แก่ ฟ้า ดิน และคน รวมไปถึงการมี 12 ปีนักษัตรที่มีลักษณะแตกต่างออกไปจากฝั่ง 12 ราศีทางตะวันตก หรือไทยเองก็ตาม โดยเริ่มต้นจากความเข้าใจ ดังนี้

  • ฟ้า หมายถึง การหยั่งรู้ถึงเรื่องของฤกษ์ยาม
  • ดิน หมายถึง ฮวงจุ้ย หรือการรู้ถึงความดีหรือเลวของสถานที่ต่าง ๆ
  • คน หมายถึง การรู้ถึงจังหวะและช่วงชีวิตหรือดวงชะตาของแต่ละบุคคล

5 ธาตุ ในโหราศาสตร์จีน

ในทางโหราศาสตร์จีน จะใช้ธาตุทั้ง 5 ในการทำนาย ซึ่งเรียกว่า “โป๊ยหยีสี่เถี่ยว” โดยธาตุทั้ง 5 นั้น ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ทอง ไม้ เป็นต้น ซึ่งแต่ละธาตุนี้ก็มักจะมีธาตุที่สามารถเกื้อกูลกันและขัดแย้งกันโดยใช้หลักเหตุและผล ความสมดุลในรูปแบบของหยินหยาง : หยินหยาง คืออะไร ? เครื่องหมายแทน “ความสมดุล”

Credit : wikimedia.org
  • คนธาตุดิน : ธาตุที่จะมาส่งเสริม : ธาตุไฟ ธาตุไม้
  • คนธาตุน้ำ : ธาตุที่จะมาส่งเสริม : ธาตุทอง ธาตุดิน
  • คนธาตุไฟ : ธาตุที่จะมาส่งเสริม : ธาตุไม้ ธาตุน้ำ
  • คนธาตุทอง : ธาตุที่จะมาส่งเสริม : ธาตุดิน ธาตุไม้
  • คนธาตุไม้ : ธาตุที่จะมาส่งเสริม : ธาตุน้ำ ธาตุทอง

โหราศาสตร์ตะวันตก

โหราศาสตร์ตะวันตก คือ การคำนวณโดยการใช้ตัวเลข วัน เดือน ปีเกิด รวมถึงเวลาตกฟาก และทำการหาตำแหน่งของดวงดาวเพื่อทำการทำนายดวงชะตาหรือวาสนา โดยโหราศาสตร์ตะวันตกนั้นจะเริ่มนับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งของดวงเป็นวันที่ 21 ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มเข้าฤดูหนาว ในขณะที่โหราศาสตร์ไทยเริ่มนับการเปลี่ยนแปลงของตำแหน่งดาวเป็นวันที่ 13 เมษายน ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย โดยที่โหราศาสตร์ตะวันตกนั้นจะอาศัยฤดูกาลเป็นการเดินทางของดาวทั้ง 12 ราศีเพื่อใช้ในการทำนายดวงชะตา

โหราศาสตร์
5 โหราศาสตร์ ทำนายดวงชะตา ยอดนิยม ในไทย ปี 2565

โหราศาสตร์ตะวันตก ตามลัคนาราศี

โหราศาสตร์ตะวันตก เรื่องของลัคนาราศีนั้น ก็จะอาศัยการการดูเรื่องของเวลาตกฟากเช่นเดียวกับของไทย แต่เขาจะมีชื่อเรียกและวันที่ของคนที่เกิดแต่ละเดือนไม่ตรงกันกับไทยดังนี้

  • ราศีมังกร Capricorn (22 ธันวาคม – 20 มกราคม)
  • ราศีกุมภ์ Aquarius (21 มกราคม – 19 กุมภาพันธ์)
  • ราศีมีน Pisces (20 กุมภาพันธ์ – 20 มีนาคม)
  • ราศีเมษ Aries (21 มีนาคม – 20 เมษายน)
  • ราศีพฤษภ Taurus (21 เมษายน – 20 พฤษภาคม)
  • ราศีเมถุน Gemini (21 พฤษภาคม – 21 มิถุนายน)
  • ราศีกรกฎ Cancer (22 มิถุนายน – 23 กรกฎาคม)
  • ราศีสิงห์ Leo (24 กรกฎาคม – 23 สิงหาคม)
  • ราศีกันย์ Virgo (24 สิงหาคม – 23 กันยายน)
  • ราศีตุลย์ Libra (24 กันยายน – 23 ตุลาคม)
  • ราศีพิจิก Scorpio (24 ตุลาคม – 22 พฤศจิกายน)
  • ราศีธนู Sagittarius (23 พฤศจิกายน – 21 ธันวาคม)

โหราศาสตร์ตะวันตก แผนที่

Credit : Your Beloved Witch

โหราศาสตร์แผนที่ (Astrocartography) คือ ศาสตร์การดูดวงแบบตะวันตกที่ใช้ในเรื่องของการย้ายประเทศว่าประเทศไหนหากเราไปอยู่แล้วจะเหมาะกับเรา โดยจะใช้วิธีการนำดาวบนฟ้าตามเวลที่เราเกิดนั้นในรูปแบบที่เป็นวงกลมมาเปลี่ยนเป็นเส้นบนแผนที่โลกเพื่อใช้ในการทำนายดวงชะตา ซึ่งหากดวงชะตาของเราไปอยู่ภายใต้เส้นในประเทศไหนก็จะทำให้รุ่งในประเทศนั้น ซึ่งสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในการดูดวงแบบนี้นั้นก็คือ วันเดือนปีเกิด และอีกสิ่งหนึ่งเลยคือเรื่องของเวลาตกฟากหรือเวลาเกิดที่ควรจะตรงตามใบสูติบัตรเป๊ะ ๆ จึงจะช่วยให้การคำนวณตามโหราศาสตร์ตะวันตกแผนที่นั้นมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

โหราศาสตร์ยูเรเนียน (โหราศาสตร์ดวงดาว)

โหราศาสตร์ยูเรเนี่ยน (โหราศาสตร์ดวงดาว) คือ ศาสตร์ที่จะมีการพัฒนาโดย ท่านอัลเฟรด วิตเตอ (Alfred Witte) ที่จะใช้เฉพาะแก่นแท้หรือหลักความเชื่อที่มีตั้งแต่โบราณนั้นมาประยุกต์เข้ากับแนวคิดและวิธีการเฉพาะจนทำให้เป็นศาสตร์การทำนายดวงชะตาที่เรียกได้ว่ามีความแม่นยำมากที่สุดในโลก ขนาด อดอฟ ฮิตเลอร์ยังต้องกลัวกับศาสตร์นี้ ซึ่งโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนนั้นก็จะมีการต่อยอดจากเรื่องของดวงชะตา 12 ราศี ที่จะใช้เรื่องขององศาและมุมสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีเรื่องของช่วงอายุเข้ามาเกี่ยวด้วย ผู้ที่จะสามารถดูดวงในศาสตร์นี้ได้นั้นจะต้องศึกษามาเป็นอย่างดี เพราะมันยากมากแต่ก็แม่นยำมากเช่นเดียวกัน

Credit : astro.com

โดยเขาจะใช้เป็นวัน เดือน ปีเกิด เวลาเกิด สถานที่เกิด รวมไปถึงช่วงเวลาที่ทำการทำนายในการไปคำนวณแบบคณิตศาสตร์ ซึ่งคำทำนายที่ได้มานั้นจะมีความแม่นยำในแบบที่เรียกว่าเกือบจะ 100% เต็มเลยทีเดียว ซึ่งก็จะมีการทำนายเกี่ยวกับเรื่องของบุคลิกและนิสัยใจคอของเรา ไปจนถึงเรื่องของราศีที่เป็นมิตรและราศีที่เป็นศัตรู แต่ในการทำนายแบบนี้นั้นอาจทำให้ราศีของเรามีการเปลี่ยนลัคนาราศีไปได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของการดูดวงโหราศาสตร์ตะวันตกยูเรเนี่ยน

อ่านเพิ่มเติม :

โหราศาสตร์พระเวท (โหราศาสตร์ภารตะ)

โหราศาสตร์พระเวท (โหราศาสตร์ภารตะ) คือ การทำนายดวงชะตาโดยการใช้ตำแหน่งจริงบนท้องฟ้า และการใช้วัน เดือน ปีเกิด เวลา รวมถึงสถานที่เกิด มาทำการคำนวณเพื่อหาตำแหน่งดวงดาวและใช้ในการทำนายนั่นเอง โดยศาสตร์นี้จะแบ่งเป็น 27 ราศี หรือ นักษัตร และแต่ละราศีนั้นก็จะมีลักษณะนิสัยรวมไปถึงธาตุที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังเป็นศาสตร์ที่ใช้เรื่องของการสอดคล้องในเรื่องของร่างกายและจิตใจเพื่อค้นหาแสงสว่างและหนทางในการดำเนินชีวิตให้แก่ผู้ที่ได้รับคำทำนาย โดยราศีทั้ง 27 ราศี นั้น มีดังนี้

Credit : astroneemo.net
  1. อัศวินี (13-27 เมษายน)
  2. ภรณี (27 เมษายน-11 พฤษภาคม)
  3. กฤติกา (11-25 พฤษภาคม)
  4. โรหิณี (25 พฤษภาคม-8 มิถุนายน)
  5. มฤคศิร (8-21 มิถุนายน)
  6. อารทรา (21 มิถุนายน-5 กรกฏาคม)
  7. ปุนัพสุ (5-19 กรกฎาคม)
  8. บุษยา (19 กรกฎาคม-2 สิงหาคม)
  9. อาศเลษา (2-16 สิงหาคม)
  10. มาฆะ (16-30 สิงหาคม)
  11. บุรพผลคุนี (30 สิงหาคม-13 กันยายน)
  12. อุตรผลคุนี (13-26 กันยายน)
  13. หัฏฐะ (26 กันยายน-10 ตุลาคม)
  14. จิตรา (10-23 ตุลาคม)
  15. สวาตี (23 ตุลาคม-6 พฤศจิกายน)
  16. วิสาขะ (6-19 พฤศจิกายน)
  17. อนุราธ (19 พฤศจิกายน-2 ธันวาคม)
  18. เชษฐา (2-15 ธันวาคม)
  19. มูละ (15-28 ธันวาคม)
  20. บุพพาสาฬหะ (28 ธันวาคม-11 มกราคม)
  21. อุตตราสาฬหะ (11-24 มกราคม)
  22. ศรวณะ (24 มกราคม-6 กุมภาพันธ์)
  23. ธนิษฐา (6-19 กุมภาพันธ์)
  24. ศตภิษัช (19 กุมภาพันธ์-4 มีนาคม)
  25. บุรพภัทรบท (4-17 มีนาคม)
  26. อุตตรภัทรบท (17-31 มีนาคม)
  27. เรวดี (31 มีนาคม-13 เมษายน)

หากต้องการศึกษาเพิ่มเติม สามารถเข้าไปอ่านได้ทาง : โหราศาสตร์พระเวท(ภารตะ)-ความรู้พื้นฐาน

บทสรุปของโหราศาสตร์

โหราศาสตร์นั้นเป็นเพียงการทำนายดวงชะตาจากวัน เดือน ปีเกิด และเวลาเกิด หรือสถานที่เกิด เพื่อใช้ในการหาดาวที่โคจรบนท้องฟ้า ซึ่งในแต่ละประเทศและในแต่ละพื้นที่ของโลกนั้นก็จะมีความเชื่อหรือการใช้วิธีการทำนายดวงชะตาเกี่ยวกับศาสตร์ของดวงดาวที่มีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็จำเป็นที่จะต้องใช้วิจรณญาณในการดูเกี่ยวกับศาสตร์เหล่านี้ด้วย

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์
    Always Active

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    Cookies Details

บันทึก