ในช่วงที่มีวิกฤตการณ์โควิดทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่กับบ้าน และหางานอดิเรกทำเพิ่มขึ้นเพื่อลดความเครียด และงานอดิเรกอย่างหนึ่งก็เห็นได้ว่าฮิตติดเทรนนั่นคือ การปลูกต้นไม้ อย่างที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ก็มีทั้งเทรนไม้ด่าง เทรนการปลูก กระบองเพชรจิ๋ว หรือ แคคตัส พันธุ์ต่างๆ (Cactus) ที่เราจะมาพูดถึงกันวันนี้นั่นเองด้วยเพราะเป็นต้นไม้เล็ก ที่สามารถวางประดับได้หลายที่ น่ารักกระทัดรัด และยังทำให้คนได้ลุ้นเพื่อจะได้อวดดอกที่ในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม หลายสายพันธุ์แย่งกันออกดอกในฤดูร้อน
สารบัญ
แคคตัส คืออะไร?
แคคตัส หรือ กระบองเพชรจิ๋ว นี้ เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ในวงศ์ Cactaceae มีถิ่นกำเนิดในทรีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ มีจำนวนมากว่า 1,200 ชนิด และสามารถแยกได้ถึง 118 สกุล แคคตัสนั้นเป็นไม้มีหนามที่ทนต่อสภาพอากาศแบบแห้งแล้งได้ โดยการกักเก็บน้ำไว้ในลำต้น ลักษณะเด่น คือเป็นไม้ที่มีหนามตามลำต้น และไม่มีใบ เพราะต้องปรับตัวกับอากาศที่มีความร้อนสูง จึงทำให้แคคตัสสะสมน้ำเอาไว้ที่ลำต้น จึงเหลือแค่หนามเอาไว้ เพื่อความอยู่รอดในทะเลทรายที่แห้งแล้ง และเป็นการป้องกันตัวเองจากศัตรูไปในตัวด้วย
แคคตัส หรือกระบองเพชรนั้นมีรูปทรงสวยงามแปลกตา บ้างก็เข้าใจไปเองว่าต้นไม้เหล่านี้ชอบแดดจัดและไม่ชอบน้ำ บอกเลยว่าไม่ใช้นะ เพราะความเข้าใจผิดในเรื่องนี้จึงทำให้หลาย ๆ ครั้งที่ซื้อมาปลูกก็มักจะเหี่ยวและตายในไม่ช้า
8 แคคตัส พันธุ์ต่างๆ
มือใหม่หัดปลูก แคคตัส พันธุ์ต่างๆ อาจจะเคยได้ยินกระบองเพชรพันธุ์ต่างๆ เช่น ยิมโน, หูกระต่าย, ช้าง, ดาวล้อมเดือน กันมาบ้างแต่ละสายพันธุ์ก็มีความโดดเด่นของตัวเองอย่างที่เราจะมาเล่าถึงในวันนี้ พร้อมแล้วมาดูกันเลย
1. แคคตัสยิมโน Gymnocalycium
แคคตัสยิมโน มีถิ่นกำเนิดอยู่ในหลายๆพื้นที่ของประเทศอาร์เจนตินา โบลิเวีย ปารากวัย และอุรุกวัย พบได้ในหลายพื้นที่
แคคตัสยิมโน นี้เลี้ยงง่าย สามารถออกดอกได้เมื่ออายุ 2–3 ปี ลักษณะทั่วไปเป็นลำต้นเดี่ยว หรือแตกหน่อจากตุ่มหนาม หนามมีรูปทรงและขนาดหลากหลาย ดอกออกจากตุ่มหนามบริเวณยอด มีหลากหลายสี เช่น ชมพู ขาว เขียว เหลือง ส้ม เป็นต้น โดยดอกจะบานตอนช่วงกลางวัน และจะหุบช่วงกลางคืน จะบานประมาณ 3 – 4 วัน ซึ่งยิมโนเป็นแคคตัสที่มีระยะเวลาการบานนานกว่าหลายๆ สายพันธุ์ที่บานไม่ถึงวันก็มี ทำให้เราสามารถชื่นชม ยิมโนคาไลเซียม (Gymnocalycium) ขณะที่ดอกกำลังเบ่งบานได้ ผลของยิมโนที่เกิดจากการถูกทำการผสมเกสรจากผู้เลี้ยงหรือแมลงที่มากินน้ำหวาน จะมีลักษณะรูปไข่หรือรูปกระสวย เมื่อผลสุกจะมีสีแดง ส้ม หรือชมพูสดซึ่งภายในมีเมล็ดสีดำขนาดเล็กจำนวนมาก
แคคตัสยิมโน ชอบแดด และรดน้ำเพียงอาทิตย์ละหนึ่งครั้งก็เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพความชื้นในอากาศด้วยเช่นกัน ตัวแคดตัสมีฤดูกาลสำหรับผลิดอกสวยให้ได้ชื่นชม และด้วยความที่เป็น สายพันธุ์กระบองเพชร ที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาพภูมิอากาศได้ดีทำให้สายพันธุ์นี้ได้รับการพัฒนาให้มีสีสันหลากหลายยิ่งขึ้นด้วยการผสมเกสรหรือแยกหน่อ ทำให้ยิมโนต้นที่มีสีสันมีราคาที่สูงขึ้น โดยราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักแสนเลยก็มี และยิ่งเป็นยิมโนด่างที่หายากด้วยแล้วราคาก็ยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน ทำให้ยิมโนแคดตัสเป็นสายพันธุ์ที่ผู้ปลูกสนุกกับการเลี้ยงดูและแน่นอนว่ามือใหม่หัดเลี้ยงจะได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับกระบองเพชรได้อย่างหลากหลายด้วยเช่นกัน
2. แคคตัสช้าง Coryphantha elephantidens
แคคตัสช้าง หรือ Coryphantha elephantidens เป็นแคคตัสอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมอีกชนิดหนึ่งที่หลายๆ คนเรียกกันติดปากว่า “ช้าง” เพราะมาจากชื่อสามัญภาษาอังกฤษว่า Elephant’s tooth cactus หรือ Elephant’s tusk cactus คล้องกับชื่อวิทยาศาสตร์ คิดว่าน่าจะมาจากหนามหนาสีขาวอมเหลืองลักษณะคล้ายงาช้างนั่นเอง ลักษณะต้นแคคตัสช้าง จะเป็นทรงกลม มีเนินหนามขนาดใหญ่ที่ส่วนใหญ่บ้านเราจะเรียกว่า ‘เต้า’ โดยทั่วไปขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร แต่อาจใหญ่ได้ถึง 5 เซนติเมตร เมื่อมีอายุมากขึ้นจะเริ่มมีร่องกลางเต้ายาวไปจนถึงตุ่มหนาม
หนามของแคคตัสช้าง จะเป็นสีขาวอมเหลืองถึงนํ้าตาล กระจายออกจากตุ่มหนามโค้งเข้าหาลําต้น หนามจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามขนาดต้นที่ใหญ่ขึ้น สำหรับดอกนั้นถือได้ว่าเป็นไฮไลต์อย่างหนึ่งเลยทีเดียว คือมีสีโทนขาวถึงชมพู ดอกมีขนาดใหญ่มากกว่า 5 เซนติเมตร ออกดอกเมื่อมีอายุพอสมควรและเริ่มสังเกตเห็นปุยขนตามซอกเนินหนาม ผลมีสีเขียวอ่อนและจะโผล่ออกมาจากปุยขนบริเวณยอดเมื่อฝักแก่
แคคตัสช้าง นั้นได้รับการยกให้เป็นหนึ่งใน ไม้ครู ที่มือใหม่หรือนักเล่นแคคตัสแทบทุกคนเคยเลี้ยง เพราะเลี้ยงง่ายโตไว ชอบแดดจัด และชอบนํ้าพอสมควร หากแดดนํ้าได้เพียงพอกับความต้องการของต้น ต้นจะอวบตึงผิวสวยเต้าแน่น แต่หากแดดไม่พอก็จะยืดยาวได้ง่าย และหนามจะเล็กลง
3. แคคตัสหูกระต่าย–หูมิกกี้เมาส์ Opuntia microdasys
อีกหนึ่งในสายพันธุ์ กระบองเพชร น่ารักน่าเลี้ยง และเป็นที่นิยมของสาวกไม้หนามทั้งมือใหม่และมือเก่า ก็คือ แคดตัสหูกระต่าง หรือ แคดตัสหูมิกกี้เมาส์ (Opuntia microdasys) ที่มีลักษณะคล้ายกับหูของกระต๋าย แคคตัสสายพันธุ์นี้จะจัดอยู่ในตระกูล Opuntia ซึ่งลักษณะทั่วไปจะมีส่วนลำต้นกลมหรือแบน มีจุดหนามกระจายอยู่ทั่วผิว และจะแตกหน่อออกจากตุ่มหนามกลายเป็นต้นใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ จะมีลักษณะลำต้นสีเขียวแบน และมีตุ่มหนามสีแตกต่างกันออกไปซึ่งจะมีทั้งสีขาว สีเหลือง และสีส้ม ซึ่งสายพันธุ์ของเค้าก็สามารถแบ่งแยกย่อยลงไปได้อีกนะคะ
สำหรับดอกนั้นจะไม่ค่อยเห็นกันเนื่องจากต้องใช้เวลาที่นานพอตัวเลยทีเดียวกว่าจะออกดอกให้เห็น จนหลายคนพากันคิดว่าเจ้าแคคตัสหูกระต่ายนั้นเป็นแคคตัสที่ไม่มีดอก แต่ความจริงแล้วเค้าสามารถให้ดอกได้และสามารถผสมเกสรเกิดเป็นผลได้ด้วย โดยดอกจะมีลักษณะเป็นสีเหลืองออกจากตุ่มหนามที่บริเวณส่วนบนสุดของลำต้น
4. แคคตัสถังทอง GOLDEN BARREL
แคคตัสถังทอง เป็นกระบองเพชรชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดในแถบทิศตะวันออกของประเทศเม็กซิโก ถูกขึ้นบัญชีว่าเป็นไม้ที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ได้สูง ที่เกิดตามธรรมชาติและจัดอยู่ในจำพวกไม้หายากในธรรมชาติ มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ ECHINOCACTUS GRUSONII ชื่อสามัญ GOLDEN BARREL CACTUS ลำต้นเป็นรูปทรงกลมดูคล้ายถัง มีหนามแหลมเป็นสีเหลืองทองกระจายทั่วทั้งต้น
แคคตัสถังทอง ในไทยถูกนำเข้ามาปลูกและขยายพันธุ์นานหลายปีแล้ว มีต้นวางขายทั้งต้นขนาดกะทัดรัดปลูกในกระถางเล็ก ยกเคลื่อนย้ายได้ง่าย และต้นขนาดใหญ่ปลูกในกระถางใหญ่ ปัจจุบันนักจัดสวนนิยมนำเอาต้นขนาดใหญ่ไปปลูกจัดสวนในบริเวณบ้าน สำนักงาน บริษัทห้างร้านอย่างแพร่หลาย จะมีดอกบริเวณส่วนยอดของลำต้น กลีบดอกเป็นแฉกสีเหลืองทอง มีความกันว่าถ้ามีแคคตัสถังทอง ปลูกไว้ในบ้านจะช่วยให้มีโชคลาภ เพราะต้นคล้ายถังและหนามสีเหลืองทองช่วยป้องกันเภทภัยต่างๆด้วย
5. แคคตัสดาวล้อมเดือน Echinopsis
แคคตัสดาวล้อมเดือนนั้นเป็นแคคตัสในสกุล Echinopsis (อิชินอปซิส) โดยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Echinopsis calochlora K.Schum. ที่มาของชื่อดาวล้อมเดือน มาจากลักษณะรูปทรงของลำต้นที่มักจะมีหน่อเล็ก ๆ งอกออกจากตุ่มหนามมาล้อมรอบหัวต้นแม่ไว้นั่นเอง และยิ่งต้นแม่มีความอุดมสมบูรณ์มากเท่าไร เขาก็จะสามารถออกหน่อได้มากเยอะขึ้น
ลักษณะของแคคตัสดาวล้อมเดือนจะค่อนข้างคล้ายคลึงกันกับแคคตัส Echinopsis แตกต่างตรงที่ดาวล้อมเดือนนั้นจะมีผิวเป็นสีเขียวตอง ขณะที่แคคตัสทั่วไปนั้นมักจะมีสีเขียวเข้ม ลำต้นหัวกลมแบ่งออกเป็นพูย่อยตั้งแต่ 10 พูขึ้นไป ตามแนวสันพูจะมีหนามสีเหลืองอ่อนงอกออกมาตลอดแนว และตรงตุ่มหนามนี้เองที่เป็นตำแหน่งที่งอกของหน่อและดอก ซึ่งหนามของดาวล้อมเดือนนั้นจะไม่ค่อยแข็งและไม่ค่อยมีความคมมากนัก
แคคตัสดาวล้อมเดือนเป็นแคคตัสที่มีดอกด้วยนะ โดยจะออกดอกให้ชมกันในช่วงหน้าร้อน ลักษณะคือจะมีก้านชูดอกยาวและมีดอกสีขาว ขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่อาจจะต้องใช้เวลาเลี้ยงไปสักระยะหนึ่งจึงจะเริ่มออกดอกให้ได้ชมกันแต่ถ้าหากดาวล้อมเดือนที่เลี้ยงไว้ยังไม่มีดอกให้ชมสักทีก็ไม่ต้องกังวลใจไปเพราะเขาอาจจะยังไม่ถึงช่วงอายุที่จะต้องให้ดอก ให้เราเลี้ยงดูแลเขาไปเรื่อย ๆ รับรองว่าจะต้องได้เห็นดอกของเขาอย่างแน่นอน
6. แคคตัสเรนโบว์ Echinocereus
เรนโบว์แคคตัส หรือ แคคตัสสายรุ้ง แคคตัสสกุล อิชิโนซีรีอุส (Echinocereus) เป็นหนึ่งในแคคตัสสุดสวยขวัญใจของใครหลายๆคน ด้วยลักษณะของขนหนามที่มีความสวยโดดเด่น ขนหนามออกเป็นสีชมพูม่วงแดง อย่างไรก็ตามเป็นอีกหนึ่งแคคตัสที่เลี้ยงไม่ง่ายสักเท่าไหร่ เพราะค่อนข้างไวต่อความชื้นมาก เน่าง่าย ตายง่าย เวลาต้นเน่าตายจะยังคงเปลือกขนหนามสวยๆไว้ แต่แม้จะเลี้ยงยากสักหน่อย ยามเมื่อเค้าเติบโตขึ้นได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแคคตัสที่สวยงามที่สุด อีกทั้งยังสามารถให้ดอกที่มีสีสันสวยงาม ดอกเป็นสีชมพูม่วงเข้ม ดอกมีขนาดใหญ่ได้ถึง 6-10 ซม. เรียกได้ว่าเป็นแคคตัสที่มีความสวยทั้งต้น ทั้งดอกเลยก็ว่าได้
7. แคคตัสโลบิเวีย Lobivia
โลบิเวีย (Lobivia) แคคตัสที่มีรูปร่างไม่โดดเด่นไม่สวยต้องตา แคคตัสที่มักจะถูกมองข้ามไปอยู่เสมอลักษณะโดยทั่วไปของแคคตัสสายพันธุ์โลบิเวียจะมีลำต้นเป็นสีเขียวเข้ม แต่บางสายพันธุ์อาจมีผิวเข้มออกสีดำได้ มีสันพูเกือบยี่สิบพูยกนูนรอบลำต้นและมีหนามแหลมสั้นยื่นออกมาตามแนวสันพู ปลายหนามนั้นไม่คมเท่าไร จึงทำให้สามารถหยิบจับลำต้นโลบิเวียด้วยมือเปล่าได้โดยไม่รู้สึกเจ็บสักเท่าไร
จุดเด่นของแคคตัสสายพันธุ์โลบิเวียมีก็คือลักษณะดอกที่มีความสวยงามหลากหลาย ถึงต้นของโลบิเวียแต่ละสายพันธุ์จะมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก โดยจะมีตั้งแต่สีขาว ชมพู เหลือง ส้ม แดง ที่เฉดความเข้มอ่อนต่างกันไป ไปจนถึงสีผสม เช่นสีเหลืองลายสีแดง สีขาวลายสีชมพู นอกจากนี้ลักษณะกลีบดอกของโลบิเวียยังมีความแตกต่างกันได้ โดยทั่วไปกลีบดอกจะรีแหลมปลาย แต่บางสายพันธุ์อาจมีกลีบดอกซ้อนกันหลายชั้นเหมือนกลีบกุหลาบ มีกลีบดอกเป็นริ้วเหมือนริบบิ้นพับ กลีบดอกแบบเป็นฝอย ๆ หรืออาจมีกลีบดอกหลากหลายรูปแบบผสมกันอยู่ในดอกเดียวก็ได้
8. แคคตัสแอสโตร Astrophytum
แอสโตรไฟตัม (Astrophytum) แคคตัสที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในสหรัฐอเมริกา รัฐเท็กซัส และประเทศเม็กซิโก แต่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์อย่างจริงจังในประเทศญี่ปุ่น กระบองเพชรแอสโตรไฟตั้ม แอสทีเรียส (Astrophytum asterias) ที่เรียกกันสั้นๆว่า ‘แอสทีเรียส’ นั้นจัดเป็น กระบองเพชร สายพันธุ์หนึ่งที่มีรูปทรงค่อนข้างกลม และไม่มีหนาม แต่ละต้นมีลวดลายไม่ซ้ำกันคล้ายกับความหลากหลายของหมู่ดาว
ที่สำคัญ กระบองเพชรแอสโตรไฟตั้ม ยังมีดอกหลายสีสัน ทั้งเหลือง ส้ม ชมพู ปลูกเลี้ยงได้ง่าย และได้รับความนิยมต่อเนื่องมายาวนาน ในประเทศญี่ปุ่นมีการปลูกเลี้ยงแคคตัสชนิดนี้มายาวนานกว่าหนึ่งร้อยปี และนำมาพัฒนาสายพันธุ์จนมีลักษณะเฉพาะตัวซึ่งไม่สามารถหาได้จากที่อื่นที่ออกไปได้เป็น 6 ชนิด ได้แก่
1. Astrophytum asterias ( แอสโตรไฟตัมแอสทีเรียส )
2. Astrophytum capricorne (แอสโตรไฟตัม แคปริคอร์น)
3. Astrophytum caput-medusae (แอสโตรไฟตัม คาปุด เมดูซ่า)
4. Astrophytum coahuilense (แอสโตรไฟตัม โคฮุยเลนส์)
5. Astrophytum myriostigma (แอสโตรไฟตัม ไมริโอสติกมา : ไม-ริ-โอ-สะ-ติ๊ก-ม่า)
6. Astrophytum ornatum (แอสโตรไฟตัม ออนาตัม)
วิธีเลี้ยงแคคตัส
แม้ว่าต้นกระบองเพชรจะเป็นพืชที่ทนต่อสภาพอากาศที่หลากหลาย และไม่จำเป็นต้องรดน้ำหรือให้ปุ๋ยบ่อย แต่การจะเลี้ยงแคคตัสให้เจริญเติบโต แข็งแรง มีดอกให้ได้ชม ต้องมีการสังเกตลักษณะของต้นด้วย การเลี้ยงเบื้องต้นควรดูเรื่องน้ำ อากาศ ดิน และแสงแดด
1. การให้น้ำ
แม้แคคตัสจะทนแล้งได้ดี แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ต้องการน้ำเลย การรดน้ำต้นแคคตัส แนะนำให้นำกระถางไปใส่ไว้ในกะละมังที่มีน้ำ เพื่อให้ดินและรากค่อย ๆ ดูดความชื้นเก็บไว้ โดยตั้งทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนนำกระถางออก แนะนำให้ทำทุก ๆ 3 วัน
2. แสงแดด
ต้นกระบองเพชรชอบแดดจัด แต่แดดในเมืองไทยก็ถือว่าแรงเกินไปสำหรับต้นกระบองเพชรบางชนิด จนทำให้อาจเกิดอาการด่างแดดได้ ดังนั้นใครที่ปลูกไว้นอกบ้าน ควรปลูกให้โดนแดดประมาณ 80 เปอรเซ็นต์ หรือหากปลูกในบ้าน ให้สลับเอาออกไปตากแดด เพราะหากได้แดดไม่เพียงพอ ต้นจะโน้มหาแสง ทำให้ผิดรูปได้
3. อากาศ
ต้นกระบองเพชรสามารถอยู่ในที่อากาศร้อนจัดและเย็นจัดได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ แต่ควรตั้งไว้ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับเกินไป
4. การให้ปุ๋ย
ปุ๋ยที่เหมาะกับการให้ต้นกระบองเพชร หากต้องการให้ออกดอกดี แนะนำให้ใช้ปุ๋ยที่มี Phosphorus (P) สูง แนะนำให้ใช้เป็นปุ๋ยละลายน้ำจะดีที่สุด
มาถึงตรงนี้หากใครที่กำลังมองหาต้น แคคตัส สักต้นปลูกไว้น่าจะได้ไอเดียแล้วว่าจะเริ่มเลี้ยงต้นกระบองเพชรสายพันธุ์ไหนดี เพราะแต่ละสายพันธุ์แต่ละสกุลก็มีเอกลักษณ์และความสวยงามไม่เหมือนกัน และนั่นก็คือเสน่ห์ของเจ้า แคคตัส พันธุ์ต่างๆ หรือ กระบองเพชรจิ๋ว นั่นเอง ซึ่งหากเพื่อนๆกำลังมองว่าต้นไม้ที่สามารถปลูกในบ้านได้ละก็เราก็มีแนะนำ สามารถตามไปอ่านได้ทาง : 16 ต้นไม้ปลูกในบ้าน