หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงเริ่มมีแบรนด์เครื่องสำอางค์หลายแบรนด์พยายามชูจุดขายทั้งเรื่อง สาร Paraben Free และ ณ ปัจจุบันก็มีตราสัญลักษณ์ Cruelty free เข้ามา วันนี้เราจะมาตอบข้อสงสัยนี้กัน
สารบัญ
Cruelty free คืออะไร
Cruelty free หรือการแสดงออกว่าเครื่องสำอางนี้ไม่มีการทดลองกับสัตว์ (Not Tested in Animal) ถือว่าเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงเลยทีเดียว เมื่อเริ่มมีกระแสเกี่ยวกับการนำเอาสัตว์มาทดลองกับผลิตภัณฑ์ความงามต่าง ๆ จนเกิดเป็นแฮชแท็ก #SaveRalph ที่มาจากภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Save Ralph ของผู้กับกับชื่อดัง Spencer Susser โดยร่วมมือกับ HIS หรือ Humane Society International องค์กรพิทักษ์สัตว์ระดับโลก จัดทำภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นเพื่อรณรงค์ให้เห็นถึงปัญหาการนำเอาสัตว์มาทดลองว่ามีความโหดร้ายเพียงใด เพราะทุกวันนี้พวกสัตว์ทดลองทั้งหลายต้องเผชิญหน้ากับการทดลองต่าง ๆ ที่ต้องนำมาใช้กับมนุษย์ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่ต้องเห็นสัตว์เหล่านั้นเสียชีวิตอย่างทรมาน ก็ยิ่งทำให้กระแสการต่อต้านการทดลองในสัตว์ยิ่งเพิ่มขึ้น
วงการเครื่องสำอางค์
ทางด้านวงการเครื่องสำอางค์ที่เป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่าง ๆ ก็ได้รับผลกระทบจากกระแส Cruelty free ไม่น้อยเลย เพราะผลิตภัณฑ์หลาย ๆ อย่าง ก่อนที่จะนำออกมาวางจำหน่ายได้นั้น มีการใช้สัตว์ทดลอง (Animal Testing) เช่น กระต่าย หนูบ้าน หนูแฮมสเตอร์ หรือ หนูตะเภา ซึ่งเป็นสัตว์ขนาดเล็กมาทดลองสูตรและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ โดยต้องผ่านการทดลองอีกหลายขั้นตอน
แต่เมื่อมีกระแส Cruelty free มาแรง หลาย ๆ แบรนด์จึงต้องพยายามปรับตัว และมีบางแบรนด์เริ่มชูจุดขายใหม่ เน้นว่าตัวเองเป็นผลิตภัณฑ์ Cruelty free ไม่มีการทดลองในสัตว์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีในวงการผลิตภัณฑ์เสริมความงามเลยทีเดียว โดยข้อดีจากการที่ไม่ต้องทดลองในสัตว์นี้ นอกจากจะช่วยให้น้อง ๆ เหล่านั้นไม่ต้องทรมานแล้ว ยังเป็นผลดีต่อสภาพผิวของผู้ใช้อีกด้วย เพราะการที่ไม่ต้องทดลองในสัตว์ ก็เท่ากับว่าทางแบรนด์จำเป็นต้องลดการใช้สารเคมีลง เพื่อให้ปลอดภัยกับผู้บริโภคมากขึ้น
ตราสัญลักษณ์
นอกจากสัญลักษณ์ Cruelty free หรือ Not Tested in Animal แล้ว ยังมีสัญลักษณ์เกี่ยวกับการผลิตเครื่องสำอางค์ที่น่าสนใจอีกก็คือ Leaping bunny และ vegan free ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้ จะเป็นการการันตีต่อผู้บริโภคว่า ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาจะไม่มีการทดลองในสัตว์ ซึ่งผู้ใช้สามารถตรวจสอบเบื้องต้นง่าย ๆ ได้ที่บนฉลากของผลิตภัณฑ์ได้เลย ถ้ามีการระบุหรือใส่สัญลักษณ์ดังกล่าวก็จะสบายใจได้ว่า เครื่องสำอางค์ที่เราใช้อยู่นี้ไม่ได้มาจากการทดลองที่โหดร้ายต่อเพื่อนสัตว์โลกตัวน้อยของพวกเรา แต่บางประเทศก็มีกฏหมายบังคับว่าต้องมีการทดลองกับสัตว์ เช่น ประเทศจีน ซึ่งถ้าผู้บริโภคจำเป็นของใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศจีนก็ต้องทำใจยอมรับตรงจุดนี้ให้ได้
เกร็ดความรู้
เกร็ดความรู้เล็ก ๆ ว่าทำไมถึงต้องใช้กระต่ายในการทดลองผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้จำเป็นต้องมีความปลอดภัยสูงมาก ถ้ามีการทดลองในสัตว์แล้วปลอดภัย ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อมนุษย์ด้วย และที่มีการใช้กระต่ายมาทำการทดลองนั้น เพราะว่ากระต่ายเป็นสัตว์ที่มีผิวค่อนข้างตอบสนองไว และมีความใกล้เคียงกับผิวของมนุษย์มากที่สุด สามารถทดลองแล้วเห็นผลได้ชัดเจน จึงมีการใช้กระต่ายในการทดลองกันอย่างแพร่หลาย
Source :
crueltyfreeinternational.org
Writer :
Suphansa Prathumwan