เห็นราคาน้ำมันช่วงนี้แล้วรู้สึกใจไม่ดีกันเลยใช่ไหมคะ เติมน้ำมันทีกระเป๋าตังค์ก็เบาหวิวเลย แถมสถานการณ์โลกในตอนนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าจะสงบ ส่งผลกระทบมาถึงชาวเราตาดำ ๆ กันแบบเต็ม ๆ จะไปไหนมาไหนก็ต้องคิดหนัก รถที่มีอยู่เหมือนกลายเป็นภาระใหญ่ขึ้นมาซะงั้น ลองมาดูทางเลือกใหม่สำหรับคนที่เห็นราคาน้ำมันก็ปวดใจแล้ว ซึ่งกระแสที่มาแรงตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นรถพลังงานไฟฟ้านั่นเอง วันนี้เราจึงอยากจะชวนให้ทุกคนมาทำความรู้จักกับรถสามล้อไฟฟ้า ว่าเจ้ารถคันเล็กตัวนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการได้จริงหรือไม่ ไปดูกันได้เลย
รถสามล้อไฟฟ้า คืออะไร
สามล้อไฟฟ้าก็เป็นยานพาหนะชนิดหนึ่ง ที่มีการให้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนเป็นหลัก ถ้าคุณอยากเดินทางในระยะทางที่ไม่ไกลมาก ชอบความคล่องตัว และต้องการประหยัดน้ำมัน บอกเลยว่ารถสามล้อไฟฟ้านี้สามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน เพราะมันถูกออกแบบมาให้คล้ายกับรถจักรยานยนต์ แต่ว่ามีการเพิ่มมาอีก 1 ล้อ เพื่อเสริมความมั่นคง และยังไม่เทอะทะมีขนาดกำลังดี เวลาขับขี่ก็ยังคล่องตัวไม่ต่างจากการขี่รถจักรยานยนต์ สามารถใช้เดินทางได้ในระยะทางใกล้ ๆ แต่ข้อที่แตกต่างกับรถจักรยานยนต์อย่างสิ้นเชิงก็คือการใช้ระบบไฟฟ้าแบบ 100% ตัวรถสามล้อไฟฟ้าหลาย ๆ รุ่นนี้ยังมีระบบเบรก ระบบขับเคลื่อน ระบบควบคุมการสั่นสะเทือนทั้งหน้าและหลังที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้อก็อยากให้ตรวจสอบรายละเอียดกันให้ดีก่อน
5 ข้อ ต้องรู้ก่อนซื้อ สามล้อไฟฟ้า
1. มีความเร็ว 25-40 กิโลเมตร/ชั่วโมง
รถสามล้อไฟฟ้านั้นถูกออกแบบมาให้มีความเร็วที่ไม่สูงมากนัก เน้นความสะดวกและปลอดภัยเป็นหลัก โดยแต่ละยี่ห้อส่วนใหญ่จะมีความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 25-40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำให้มั่นใจได้ว่าหากมีการเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะไม่อันตรายเท่ากับการขับขี่รถจักรยานยนต์ปกติ
2. วิ่งได้ 40-60 กิโลเมตร/การชาร์ต 1 ครั้ง
การทำงานของรถสามล้อไฟฟ้านั้น จะอาศัยพลังงานจากแบตเตอรีเป็นหลัก โดยการใช้งานจะต้องมีการชาร์จไฟเพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้กับเจ้ารถคันจิ๋วนี้ ซึ่งในการชาร์จ 1 ครั้ง จะสามารถวิ่งได้ประมาณ 40-60 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับประเภทของแบตเตอรีที่เลือกใช้ กำลังมอเตอร์ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่ 500W – 800W ซึ่งเพียงพอให้วิ่งฉิวได้เลย และ ใช้เวลา 8-10 ชั่วโมง ต่อการชาร์ตเต็ม
3. รับน้ำหนักได้ 100-250 กิโลกรัม
แม้ว่าขนาดของรถสามล้อไฟฟ้านี้จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 100-250 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อที่คุณเลือกใช้ ซึ่งสามารถรับน้ำหนักของผู่ใหญ่และเด็กตัวเล็ก ๆ ไปพร้อมกันได้เลย สะดวกสำหรับผู้ปกครองที่จะนำไปใช้รับ-ส่งบุตรหลานไปโรงเรียน และยังหลีกเลี่ยงปัญหารถติดได้อีกด้วย
4. อายุการใช้งานของแบตเตอรี่
การเลือกใช้แบตเตอรีนั้นก็สำคัญเช่นกัน โดยหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 3 ประเภท คือ แบตเตอรีน้ำกลั่น (Distilled water battery), แบตเตอรีเจล (Gel battery) และแบตเตอรีลิเทียมไอออน (Lithium-Ion Battery) โดยแต่ละชนิดก็มีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของรถแต่ละรุ่น อายุการใช้งานจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ปี แต่แบตเตอรีลิเทียมไอออนนั้นจะสามารถอยู่ได้นานถึง 5 ปี ดังนั้น ก่อนจะเลือกใช้จึงควรศึกษาลักษณะและความคุ้มค่าของแบตเตอรีแต่ละรุ่นให้ดีก่อน
5. การรักษาแบตเตอรี่
อีกหนึ่งเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันก็คือ วิธีการชาร์จแบตเตอรีและการบำรุงรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งานนั่นเอง สิ่งที่ต้องระวังไว้เสมอคือเรื่องอุณหภูมิของแบตเตอรี อย่าปล่อยให้แบตเตอรีของคุณร้อนจนเกินไป เนื่องจากความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบตเตอรีเสื่อมได้ และยังส่งผลให้ความจุของแบตเตอรี่ลดลงอีกด้วย จึงไม่ควรวางไว้กลางแดดหรือชาร์จทิ้งไว้เป็นเวลานาน สิ่งที่ควรรู้อีกอย่างคือถึงแม้ว่าไม่มีการใช้งาน ก็ยังจำเป็นต้องชาร์จแบตฯ อยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพโดยที่เราไม่รู้ตัว และห้ามปล่อยให้แบตหมดเกลี้ยงถึงค่อยชาร์จ เพราะจะทำให้แบตเตอรีทำงานหนักเกินไป จนทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงได้
ประโยชน์ของ รถสามล้อไฟฟ้า
เมื่อนึกถึงยานพาหนะที่ใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนนั้น ประโยชน์แรกที่ต้องนึกถึงเลยก็คือการประหยัดน้ำมัน ใคร ๆ ก็รู้ว่าช่วงนี้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไม่หยุด การใช้รถระบบไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้ อีกเรื่องที่สำคัญก็คือเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะการที่ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง และไม่มีการปล่อยควันที่เกิดจากการเผาไหม้ออกมาก็ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้สายรักษ์โลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ถ้ามีการใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้น เชื่อว่ามลพิษที่เกิดจากควันรถยนต์และเป็นสาเหตุใหญ่ของการเกิดฝุ่นควันอย่าง pm2.5 จะลดลงไปได้มากทีเดียว นอกจากจะช่วยลดโลกร้อนแล้ว ยังช่วยลดมลภาวะทางเสียงอีกด้วย เนื่องจากเสียงเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างเงียบ ทำให้ลดเสียงดังรบกวนที่รถเครื่องยนต์ปกติทำไม่ได้
ประโยชน์อีกอย่างที่หลายคนน่าจะชื่นชอบคือความปลอดภัย หลายบ้านซื้อรถสามล้อไฟฟ้าเพื่อให้ผู้สูงอายุในบ้านได้ใช้ เนื่องจากความเร็วที่ไม่เร็วมาก บวกกับขนาดที่กระทัดรัดขับขี่ง่าย ทำให้ผู้สูงอายุสามารถใช้เดินทางไปมาได้สะดวก โอกาสเกิดอุบัติเหตุรุนแรงน้อยมาก รถสามล้อไฟฟ้าราคาก็ไม่สูงมาก อยู่ในช่วงราคาหมื่นต้น ๆ – 30,000 บาท แถมค่าดูและรักษาเครื่องยนต์ก็มีราคาไม่แพงเช่นกัน เนื่องจากการซ่อมบำรุงของเครื่องยนต์รถสามล้อไฟฟ้าไม่ซับซ้อนเท่ารถที่ใช้น้ำมันปกติ
รถสามล้อไฟฟ้า สามารถจดทะเบียนได้ไหม
เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนอยากรู้ ว่ารถสามล้อไฟฟ้านี้สามารถจดทะเบียนรถให้ถูกกฎหมายได้หรือไม่ คำตอบก็คือ ตามกฎหมายการจราจรทางบกของกรมการขนส่งทางบกนั้น ยังให้ละเว้นการจดทะเบียนทั้งรถสามล้อเครื่องยนต์ปกติและรถสามล้อไฟฟ้า ส่วนรถสามล้อไฟฟ้าที่สามารถจดทะเบียนได้นั้น จะต้องมีกำลังมอเตอร์มากกว่า 4,000W ขึ้นไป ซึ่งก็จะมีคำถามตามมาอีกว่า แล้วแบบนี้การซื้อมาใช้ถือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ และสามารถเอามาขับขี่บนท้องถนนได้ไหม คำตอบก็คือ ซื้อได้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ไม่สามารถนำออกมาขับขี่บนถนนเส้นหลักหรือถนนใหญ่ได้ ด้วยลักษณะทางกายภาพของรถสามล้อไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กและมีความเร็วไม่สูงมาก ก็ไม่เหมาะที่จะเอาไปใช้ขับขี่บนเส้นทางหลักอยู่แล้ว ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและทำตามกฎหมาย จึงไม่ควรนำรถสามล้อไฟฟ้าออกไปขับขี่บนถนนใหญ่เด็ดขาด
สรุปเกี่ยวกับ รถสามล้อไฟฟ้า
จะเห็นได้ว่าการใช้รถสามล้อไฟฟ้านั้นเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทยและทั่วโลก เนื่องจากเป็นยานพาหนะที่ใช้ได้ง่าย ขับขี่สะดวก มีขนาดกระทัดรัด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ช่วยลดมลพิษทั้งทางอากาศและทางเสียง ในบ้านเราก็มีหลายยี่ห้อและหลายรุ่นให้เลือกซื้อ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งในยุคที่ราคาน้ำมันแพง แถมกระแสการรักษ์โลกก็กำลังมาแรง ก่อนเลือกซื้อก็ลองหาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจ เพื่อที่จะได้ใช้ประโยชน์จากเจ้ารถสามล้อไฟฟ้านี้กันอย่างเต็มที่กันนะคะ
