เสริมหน้าผาก คืออะไร
“เสริมหน้าผาก” และการศัลยกรรมตกแต่งหน้าผาก เริ่มเป็นนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะมาจากความเชื่อโหง้วเฮง หรือการต้องการแก้ไขจุดบกพร่องบริเวณดังกล่าว ทั้งจากปัญหาหน้าแคบ หน้าผากสั้น หน้าผากบุ๋ม หน้าผากแบน หรืออื่นๆ นอกจากการเสริมหน้าผากเข้ามาตอบโจทย์ปัญหาดังกล่าวแล้ว ผลลัพธ์จากการเสริมหน้าผากยังเข้ามาช่วยเพิ่มมิติสำหรับรูปหน้า และช่วยเสริมความมั่นใจให้ผู้ทำอีกด้วย
สารบัญ
- เสริมหน้าผาก คืออะไร
- เสริมหน้าผาก มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
- เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนทางการแพทย์ มีกี่ประเภท
- ข้อดี VS ข้อเสีย ของการเสริมหน้าผาก
- การดูแลตัวเองก่อนและหลัง การเสริมหน้าผาก
- ราคาการเสริมหน้าผาก
- สนใจ “เสริมหน้าผาก”
เสริมหน้าผาก มีกี่ประเภท อะไรบ้าง
เสริมหน้าผาก แบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1. การผ่าตัดเสริมหน้าผาก
คือ การศัลยกรรมตกแต่งหน้าผาก (Forehead Augmentation) โดยการผ่าตัดนำเอาซิลิโคนทางการแพทย์เข้าไปบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หน้าผากมีความโค้งมน โหนกนูนตามที่ต้องการมากขึ้น เป็นวิธีการที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาแบบถาวรในระยะยาว
2. การฉีดหน้าผาก
คือ การฉีดสารเติมเต็ม หรือ filler ไปบริเวนหน้าผาก เพื่อแก้ไขหรือเติมเต็มจุดบกพร่องดังกล่าว ซึ่งวิธีการนี้ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เนื่องจากสารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์ มักจะมีอายุคงสภาพไม่กี่ปีหลังจากได้รับการฉีด อาจต้องมีการฉีดเพิ่มเติมทุกๆ 1-2 ปี เพื่อคงสภาพเดิมไว้ (Filler คืออะไร ? 5 ตำแหน่ง ยอดฮิต ประจำปี 2022)
3. การเติมไขมันหน้าผาก
คือ การนำไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายเรามาฉีดเติมเต็มบริเวณหน้าผาก ซึ่งจะผ่านกระบวนการดูดไขมันและการแยกของเหลวก่อนจะนำมาฉีดบริเวณหน้าผาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงในการแพ้สารเติมเต็ม หรือซิลิโคนเนื่องจากสารที่ฉีดคือไขมันจากร่างกาย แต่อายุคงสภาพอาจจะไม่ถาวร และมีโอกาสเสี่ยงที่ไขมันจะยุบตัวในบางกรณี (เติมไขมันหน้า คืออะไร ? 5 ตำแหน่ง ยอดฮิต ประจำปี 2022)
เสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนทางการแพทย์ มีกี่ประเภท
การผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนทางการแพทย์ ในปัจจุบัน มีทั้งหมด 2 ประเภท คือ
1. ซิลิโคนเสริมหน้าผากสำเร็จรูป (Preformed Silicone)
คือ ซิลิโคนทางการแพทย์ที่ถูกออกแบบมาสำเร็จรูปแล้วพร้อมที่จะใช้สำหรับการผ่าตัดทันที มีทั้งหมด 3 ขนาด คือ S M L ตามลำดับ ขนาดของความโหนกนูนและความกว้างของซิลิโคนจะมีกำจัดตามรูปแบบที่ถูกออกแบบมา ซึ่งโดยส่วนมากจะออกแบบจากค่าเฉลี่ยตามขนาดของบุคคลทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานหน้าผากที่ไม่ได้มีปัญหาเฉพาะเจาะจงมากนัก เช่น หน้าผากแบน หน้าผากที่ไม่บุ๋มยุบเป็นบางจุด หรือรวมไปถึงหน้าผากช่วงหางคิ้วไม่ยุบตัวลง และอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีฐานหน้าผากกว้างในบางกรณี
2. ซิลิโคนเสริมหน้าผากเเบบหล่อ (3D Customized Silicone Implant)
คือ ซิลิโคนทางการแพทย์ที่ได้จากการการหล่อแผ่นซิลิโคนออกมาจากโครงสร้างกระดูกบริเวณหน้าผากของตัวคนไข้ ด้วยวิธีการดังกล่าวจึงทำให้ซิลิโคนที่ได้ออกมาเหมาะกับสะรีระใบหน้าคนไข้มากที่สุด เนื่องจากบริเวณพื้นผิวด้านล่างของซิลิโคนจะพอดีกับฐานกระดูกเดิม และยังสามารถกำหนดขนาด ความนูน ความกว้างของซิลิโคนได้เช่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการซิลิโคนที่มีรูปแบบเฉพาะสำหรับฐานหน้าผากตนเอง และผู้ที่ไม่เคยผ่านการผ่าตัดเสริมหน้าผาก ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หรือเติมเต็มไขมันบริเวณหน้าผากมาก่อน เนื่องจากต้องอาศัยสะรีระฐานหน้าผากเดิมในการหล่อซิลิโคนดังกล่าว
ซึ่งสำหรับผู้ที่เคยมีการเสริมหน้าผากหรือฉีดหน้าผากมาก่อนหน้านั้น หากต้องการเสริมใหม่ หรือแก้ไขหน้าผากที่ทำมาแล้ว ด้วยซิลิโคนเสริมหน้าผากเเบบหล่อ (3D Customized Silicone Implant) ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยวิธีการคือ จะใช้การหล่อซิลิโคนขึ้นมาใหม่จากโครงสร้างฐานหน้าผากเดิม ผ่านเทคโนโลยี CT-SCAN ซึ่งจะใช้ในการตรวจสอบและวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าเดิมก่อนมีการเสริมหน้าหรือได้รับการฉีดหน้าผาก และนำรูปแบบดังกล่าวไปใช้ในการหล่อซิลิโคนต่อไป โดยยังสามารถกำหนดความนูน ความโค้ง ความกว้าง ความสูง ได้เช่นเดิม
ข้อดี VS ข้อเสีย ของการเสริมหน้าผาก
การผ่าตัดเสริมหน้าผาก
ข้อดี
- ได้หน้ารูปแบบหน้าผากที่ต้องการแบบถาวร
- ไม่เสียงต่อการยุบตัว และลดการกังวลเรื่องการคงสภาพของสารเติมเต็มที่ฉีดในอนาคต
- สามารถออกแบบรูปแบบหน้าผากที่ต้องการได้
- เป็นการเสริมหน้าผากบริเวณชั้นโครงสร้าง จึงสามารถ กดสิว ฉีดบำรุงผิวหน้า หรือเลเซอร์ได้ปกติ
ข้อเสีย
- ใช้ระยะเวลาในการรักษาตัวนาน และอาศัยเวลาในการดูแลรักษาแผล
- มีรอยแผลบริเวณไรผมตามขนาดของซิลิโคน
- หากเสริมมาแล้วต้องการแก้ไขความโหนกนูน ต้องผ่าตัดแก้ไขปรับแต่งเท่านั้นในบางกรณี
- มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงในบางกรณี
การฉีดหน้าผาก
ข้อดี
- เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังฉีด
- ไม่มีแผล และไม่ต้องพักฟื้น
- สามารถออกแบบรูปแบบหน้าผากเฉพาะจุดที่ต้องการได้
- หากต้องการแก้ไขก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์บริเวณนั้นๆได้
ข้อเสีย
- ฟิลเลอร์จะไม่คงอยู่ถาวร และจะสลายไปตามระยะเวลา ประมาณ 1-2 ปี แล้วแต่ยี่ห้อ
- หากต้องการคงสภาพต้องมีการฉีดเสริมเพิ่มเติม
- อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อและต้องขูดทิ้ง ต้องอาศัยผู้เชียวชาญในการฉีดสารเติมเต็มและได้รับดูแลจากคุณหมอเท่านั้น
- อาจกระทบหลอดเลือดและเส้นประสาทได้ หากไม่ได้รับการดูแลจากผู้เชียวชาญ
การเติมไขมันหน้าผาก
ข้อดี
- ลดปัจจัยเสี่ยงด้านการแพ้ และการติดเชื้อได้ เนื่องจากสารที่ฉีดคือไขมันจากร่างกาย
- สามารถฉีดเติมได้ในปริมาณเยอะตามที่ต้องการได้
- เซลล์ไขมันจะช่วยฟื้นฟู ซ่อมแซมผิวให้สุขภาพดีขึ้น
ข้อเสีย
- เสี่ยงต่อการยุบตัวค่อนข้างเร็วกว่าฉีดสารเติมเต็ม
- มักไม่ได้ผลชัดเจนในการฉีดเสริมครั้งแรก ต้องมีการฉีดเพิ่มเติมในหลายๆรอบ
- มีกระบวนการยุ่งยากในการดูดไขมัน และค่อนข้างใช้เวลา
- ต้องใช้ไขมันที่ดูดจากบริเวณอื่นมาเติมเต็มหน้าผาก อาจจะเจ็บจากการดูดไขมันเป็นบบางกรณี
- มีแผลจากบริเวณที่ดูดไขมัน
- มีโอกาสเกิดปัญหาผิวไม่เรียบเสมอกัน
การดูแลตัวเองก่อนและหลัง การเสริมหน้าผาก
ก่อน | หลัง | |
1. การผ่าตัดเสริมหน้าผาก | งดอาหารเสริม งดแอลกอฮอลล์ เพื่อลดการไหลเวียนของเลือด 14-20 วัน งดกลุ่มยาที่มีผลต่อการไหลเวียนของเลือด | ประคบเย็นให้มากที่สุด เพื่อลดอาการบวมและการไหลเวียนของเลือด งดทานอาหารแสลง 1 เดือน ทานยาตามที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำและเหงื่อโดนแผล ควรนอนหมอนสูงเพื่อลดอาการบวม |
2. การฉีดสารเติมเต็ม | ควรงดยาแอสไพริน, NSAIDs วิตามินและยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว งดดื่มแอลกอฮอลล์ 24 ชั่วโมง | ควรอยู่ในที่ๆมีอากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด 48 ชั่วโมง งดเลเซอร์ที่มีความร้อนลงผิว 1 เดือน |
3. การเติมไขมันหน้าผาก | งดน้ำ และอาหารก่อนผ่าตัด 8-10 ชั่วโมง งดวิตามิน หรือกลุ่มยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด แจ้งโรคประจำตัวให้ชัดเจนกับแพทย์ก่อน ดูแล รักษาบริเวณที่จะดูดไขมัน ห้ามมีแผลก่อนการผ่าตัด เสียงติดเชื้อได้ | งดล้างหน้า 7 วัน หากต้องการล้างหน้า ควรใช้สำลีชุบน้ำเกลือเช็คหน้าแทน และหลีกเลี่ยงบริเวณรูเข็มที่ฉีด งดแต่งหน้า และทาครีม 2 วัน 3-4 สัปดาห์ ควรหลีกเลี่ยงการอบซาวน์หน้า หรือโดนความร้อนจัด พันผ้าบริเวณต้นขาที่ทำการดูดไขมันิก่อนนอน เป็นเวลา 7 วัน |
ราคาการเสริมหน้าผาก
ซิลิโคนสำเร็จ
- ซิลิโคนเกาหลีพรีเมี่ยม 24,990 บาท
- ซิลิโคนเกาหลี Keosan 35,990 บาท
ซิลิโคนfitme
- Fitme แบบหล่อเฉพาะบุคคล 79,990 บาท
- Fitme แบบ Ct scan 99,990 บาท (ไม่รวมค่าขูดและงานแก้)
สนใจ “เสริมหน้าผาก”
สามารถติดต่อสอบถามกับ น้อต ธเนศ ที่ปรึกษาศัลยกรรมมืออาชีพ ได้ทาง :
https://bit.ly/3cRAyZg หรือ Qr Code ด้านล่างได้ทันที