เมื่อพูดถึงเรื่องของ Soul Connection หรือความเชื่อมต่อกันทางจิตวิญญาณแล้ว แน่นอนเลยค่ะว่าจะต้องมีคำสองคำที่จะปรากฏขึ้นมาในหัวของเรา นั่นก็คือ โซลเมท Soulmate และ ทวินเฟลม Twin flame ซึ่งทั้งสองคำนี้นั้นหลาย ๆ คน ก็เกิดความสงสัยว่ามันแตกต่างกันอย่างไร เพราะความแตกต่างของเขามีเพียงเส้นด้ายบาง ๆ ที่กั้นอยู่เท่านั้นเอง ซึ่งทุกท่านสามารถหาคำตอบเหล่านั้นที่บทความนี้
โซลเมท (Soulmate) คืออะไร
โซลเมท คือ จิตวิญญาณหรือคนที่เรานั้นอยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจ รู้สึกว่าได้พูดคุยกันแล้วถูกคอ สามารถเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้กันฟังได้อย่างไม่ต้องลังเล ซึ่งคำว่าโซลเมทนี้ก็ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นเพียงคู่รักหรือคนรักเท่านั้น และในบางครั้งโซลเมทก็เข้ามาเพื่อสอนบทเรียนเรื่องบางเรื่องให้กับชีวิตเราได้เช่นกัน เพราะคำนี้สามารถเป็นใครก็ได้ โดยสังเกตจากคำว่า “Mate” นั้น หากจะพูดกันตามตรงแล้วก็แปลว่า “เพื่อน” ดังนั้นคำว่า “Soulmate” จึงมีความหมายเป็นนัยถึงคำว่าเพื่อนที่รู้ใจนั่นเอง ซึ่งก็สามารถที่จะเป็นใครก็ได้ที่เรารู้สึกว่าอยู่กับเขาแล้วมีความสบายใจ
ไม่ว่าจะเป็น คนในครอบครัว พ่อ , แม่ , พี่น้อง , หรือจะเป็นคนที่เพิ่งรู้จักแต่มีความรู้สึกว่าเราสามารถถ่ายทอดเรื่องราวหรือความรู้สึกต่าง ๆ ออกไปให้เขารับรู้ได้อย่างสบายใจ ซึ่งโซลเมทของคนเรานั้นสามารถมีได้มากกว่า 1 คน ซึ่งก็จะมีความแตกต่างจากทวินเฟลมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทวินเฟลม (Twin Flame) คืออะไร
ทวินเฟลม คือ จิตวิญญาณ 1 ดวง ที่แบ่งออกเป็นสองดวง แต่จะอยู่ที่เราส่วนหนึ่ง ซึ่งอีกครึ่งหนึ่งจะอยู่ในอีกร่างหนึ่ง ในบางคนอาจเกิดความคิดที่ว่า ทวินเฟลมนั้นคือ “เจ้ากรรมนายเวร” แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลย เพราะคำว่าเจ้ากรรมนายเวรดูจะเป็นอะไรที่กว้างเกินไปหากจะเปรียบเทียบกับเรื่องของกฎแห่งกรรมตามศาสนาพุทธ ซึ่งทวินเฟลมนั้นจะเป็นอีกส่วนหนึ่งของเราและจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะเป็นทวินเฟลมของเรา โดยทวินเฟลมจะแบ่งเพศสภาพออกเป็นสองส่วน ได้แก่ Divine Masculine และ Feminine Masculine ซึ่งก็คือพลังงานเพศชายและพลังงานเพศหญิงนั่นเอง
โดยที่ทวินเฟลมนั้นจะมีความเหมือนราวกับกระจกเงาที่ส่องสะท้อนตัวเราเอง และสิ่งที่อยู่ในกระจกเงานั้นเมื่อเราได้พบแล้วสิ่งที่จะได้เผชิญอาจจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ ขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะชีวิตของทั้งคู่ เจอแล้วต้องแยกจากก็เกิดขึ้นได้
ความแตกต่าง ระหว่าง Soulmate และ Twin Flame
ในเรื่องของความแตกต่างระหว่าง โซลเมท และ ทวินเฟลมนั้น เอาจริง ๆ แล้วเรื่องความแตกต่างนี้ก็มีอยู่พอสมควรเลยค่ะ ซึ่งที่เราจะสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายแบบหลัก ๆ เลยก็คือ เรื่องของความสบายใจที่หากเราได้พบกับผู้ที่เป็นโซลเมทของเราแล้ว จะรู้สึกได้ถึงความสบายใจและความเป็นตัวของตัวเองที่มากขึ้น หากเราจะขอยกสถานการณ์ง่าย ๆ เลย ก็คือ คุณพ่อหรือคุณแม่ของเราเลยค่ะ ซึ่งสิ่งที่จะบางบอกว่าคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นโซลเมทของเรานั้น ให้เราดูว่าเรานั้นรู้สึกว่าอยู่กับคนไหนแล้วมีความสบายใจ อาจจะเป็นอยู่กับคุณพ่อแล้วสบายใจมากแต่อยู่กับแม่รู้สึกว่าจะต้องวางตัว หรืออาจจะสลับกัน หรือทั้งสองคนนี้อาจจะทำให้เรารู้สึกสบายใจได้อย่างเท่าเทียม จึงทำให้เราอยากพูดในสิ่งที่ต้องการจะสื่อสารหรืออยากทำในสิ่งที่คิดเอาไว้ได้แบบไม่ลังเล
ซึ่งหากเป็นทวินเฟลมนั้นก็ต้องบอกไว้ก่อนเลยค่ะว่าแต่ละคนจะเจอไม่เหมือนกัน และที่สำคัญเรานั้นไม่จำเป็นที่จะต้องตามหาทวินเฟลมของตัวเองเลย เพราะในบางคนการได้เจอทวินเฟลมที่เป็นอีกด้านของเรานั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยก็มี และถือว่ามีผู้ที่พบเรื่องราวเหล่านี้เยอะมาก ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ดีเสมอไป อย่างที่บอกทวินเฟลมอาจจะไม่ได้เจอกันครั้งแรกแล้วจะลงเอยได้อย่างดี แต่ตราบใดที่เขาคือ Twin Flame แล้วละก็ ไม่วันใดก็ยังต้องเจอกันอยู่ดี ด้วยความที่เมื่อทวินเฟลมกับทวินเฟลมได้เจอกัน มันจะเกิดความรู้สึกบางอย่างที่เกี่ยวกับอารมณ์อันแรงกล้า รู้สึกไม่อยากอยู่ห่างจากเขาคนนี้หรือไม่อยากเสียเขาคนนี้ไปเลย ถ้าเสียไปแล้วฉันจะอยู่ไม่ได้ เหล่านี้คือความรู้สึกนึกคิดของผู้ที่ค้นพบทวินเฟลมของตัวเองแล้ว
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำไมเราจึงเจอคำว่าโซลเมทมากกว่าคำว่าทวินเฟลม เพราะโซลเมทนั้นจะเป็นที่พึ่งพาและเป็นเรื่องราวดี ๆ ให้กันเพื่อให้เกิดความสบายใจมากที่สุด ซึ่งนั่นก็ตรงข้ามกับทวินเฟลมไปโดยสิ้นเชิง และน้อยคนมากที่จะได้เจอทวินเฟลมของตัวเองในด้านดี แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย และสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณนั้นได้เจอกับทวินเฟลมที่ดีเลยก็คือ อย่างแรกคุณจะต้องรู้จักที่จะรักตัวเองให้มาก ๆ รู้ว่าสิ่งใดที่คุณควรหรือไม่ควรทำ สิ่งไหนถูกสิ่งไหนผิด แล้วมันจะมีเวลาที่บอกว่าเหมาะสมแล้วที่คุณจะได้เจอทวินเฟลมของคุณที่มีแต่ด้านดี ๆ และไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันตามที่ใครได้นิยามไว้นั่นเอง
บทสรุป
เชื่อค่ะว่ายังมีหลาย ๆ คน ที่ยังงง ๆ เองของคำสองคตำนี้อยู่ แต่ในบางคนที่พอจะเข้าใจแล้วนั้นก็เริ่มรู้สึกไม่มั่นใจแล้วว่าสรุปแล้วคนที่เรารู้สึกแบบนี้ไปคือทวินเฟลมใช่มั้ย เพราะในบางครั้งเราก็รู้สึกว่าขาดเขาไม่ได้เลยจะต้องมีเขาอยู่ตลอด แต่ก็ไม่รู้ว่าเขานั้นจะรู้สึกดีกับเราเหมือนที่เรารู้สึกไหม ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำไมเราจึงไม่ควรตามหาทวินเฟลมของตัวเอง เพราะในบางทีเอเนอร์จี้ของผู้ชายและของผู้หญิงนั้น มักจะผลักกันและไม่รวมเป็นหนึ่งเดียว ทำให้ฝ่ายหนึ่งต่างรู้สึกว่าอยากจะหนีไปจากตรงนี้แต่ผิดกับอีกฝ่ายหนึ่งที่รู้สึกว่าอยากจะเก็บเขาเอาไว้ไม่อยากให้ไปไหน ซึ่งใจความสำคัญ เราไม่จำเป็นต้องตามหา เพราะ คนที่มันใช่ ความรู้สึกจะตอบเราได้เองอย่างง่ายดาย ถ้ามันไม่ใช่วันนี้ อีกวันก็อาจจะใช่หรือไม่เลยก็ได้ แต่ให้เชื่อไว้เสมอว่า ทวินเฟลม หรือ เนื้อคู่ ถ้ามี ยังไงก็ต้องเจอ
และนี่ก็คือเรื่องราวของโซลเมทและทวินเฟลมที่เราอยากนำมาแชร์ให้ทุกท่านได้อ่านกัน และเชื่อว่าตอนนี้ทุกคนก็คงจะมีโซลเมทของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าอยากเจอทวินเฟลมก็ต้องรู้จักรักตัวเองก่อนจึงจะสามารถพบทวินเฟลมที่จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเราได้